Pumpkin

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558

เมื่อนำอาหารเมนูต่างๆ มาเปรียบเทียบกับปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดต่างๆ

                               เมื่อนำอาหารเมนูต่างๆ มาเปรียบเทียบกับปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดต่างๆ ที่มีแคลอรี่ใกล้เคียงกัน เพื่อประโยชน์และสุขภาพของตัวเองจะเลือกทานอย่างไหน

                                ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. จัดทำอินโฟกราฟฟิคให้ข้อมูลความรู้สุขภาพ ด้วยการเปรียบเทียบการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กับอาหารเมนูต่างๆ ที่มีปริมาณแคลอรี่ใกล้เคียงกัน ดังนี้


10 อันดับอาหารยอดอ้วน

อันดับ 10 ขนมปังขาว (White Bread)
อาหารชนิดนี้ทำมาจากแป้งสาลีขัดสี การขัดขาวทำให้สารอาหารในแป้งลดลง แถมใยอาหาร(Fiber)ก็หายไปด้วย เมื่อไม่มีกากใย ก็ทำให้เราอิ่มช้าลง ระดับน้ำตาลในเลือดของเราจะขึ้นสูงและลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เราหิวเก่ง ตัวอย่างเช่น ขนมปังแฮมเบอร์เกอร์ หรือขนมปังทำแซนด์วิช เราควรจะเลือกทานขนมปังโฮลวีทล้วน (100% ) มาทาน ในการควบคุมน้ำหนักให้คงที่ได้
อันดับ 9 ซีเรียล (Cereal)
ซีเรียลเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยน้ำตาล และก็ไม่ค่อยมีคุณค่าหรือวิตามินอะไรเลย ถึงแม้จะบอกหน้ากล่องว่า Whole Grain แต่วัตถุดิบมีส่วนประกอบน้ำตาลสูงเมื่อทานไปแล้ว ระดับน้ำตาลในเลือดจะขึ้นสูงอย่างฉับพลัน ทำให้เรากระปรี้กระเปร่า เดี๋ยวเดียว หลังจากนั้นแล้วระดับน้ำตาลก็ลดต่ำอย่างรวดเร็ว ทำให้คุณหิวและต้องหาของกินเพิ่ม จนสุดท้ายความอ้วนก็มาคุณควรหลีกเลี่ยงในมื้อแรกของวัน คุณอาจจะเลือกทานผลไม้ หรือบางทีอาจจะเป็น ข้าวโอ๊ต โฮลเกรน เพื่อการลดน้ำหนักที่ได้ผล
อันดับ 8 อาหารลดน้ำหนัก (Diet Food Products)
อาหารไขมันต่ำ หรืออาหารสำหรับไดเอท แท้จริงแล้วไม่ได้ช่วยให้ลดน้ำหนักเลย  เพราะมันใส่ผงชูรส หรือสารเคมีแต่งรสที่ทำให้เราติดรสอาหารและอยากกินเพิ่ม เมื่อทานแล้ว มันจะหลอกร่างกายว่าได้รับอาหารแล้ว แต่จะทำให้เราหิวโซ หากคุณชอบดื่มน้ำอัดลมแบบไร้น้ำตาลมาก แต่ยิ่งดื่มกลับยิ่งหิว ดังนั้นเราน่าจะเลือกทานผักและผลไม้ จากธรรมชาติดีกว่า
อันดับ 7 ไก่ทอด (Fried Chicken)
มันมีความชุ่มไปด้วยน้ำมันทั้งยังผ่านการทอดในอุณหภูมิสูง ซึ่งน้ำมันถูกใช้หลายครั้งไม่ถูกหลักสุขลักษณะหากชุบไก่ในแป้งทอดกรอบที่ทำจากแป้งสาลีขัดขาวไร้ประโยชน์อีก เพราะน้ำมันที่ร้อนทำให้สารอาหารในเนื้อไก่ก็สลายไปหมด ดังนั้นทางเลือกที่ดีควรนำไก่ไปอบแทนสุขภาพคุณจะดีขึ้น เวลาเราลดน้ำหนัก อาหารทอด ที่มีไขมันสูงนั้น ถือเป็นของต้องห้ามอันดับแรกควรหลีกเลี่ยง
อันดับ 6 น้ำหวาน และ ชา กาแฟ (Coffee)
กาแฟเย็น  ที่เราทานกันประจำ เต็มไปด้วยครีม และน้ำตาลที่เติมเพื่อความอร่อยแต่ทำให้เราเสียสุขภาพ บางแก้วมีพลังงานสูงถึง 800 กิโลแคลอรี่ เครื่องดื่มเหล่านี้ควรไม่ให้หวาน หรือมันมากเกินไป ถ้าอยากทานขนมหวานอย่างอื่นควบคู่ก็ทำได้ เพราะ เราสามารถควบคุมปริมาณได้ แต่อย่าทานกาแฟเย็นรสชาติหวานมันเข้มข้นในคราวเดียว จะทำให้ร่างกายปรับตัวตามระดับน้ำตาลและคาเฟอีนไม่ทันแล้ว ไม่สามารถควบคุมปริมาณไขมันและน้ำตาลที่ได้รับในแต่ละวัน
อันดับ ขนม และลูกกวาด (Candy)
ลูกอม หรือ ขนมแท่ง ที่ทานแก้หิว ที่สามารถคว้ากินได้ทั้งวัน  นอกจากทั้งน้ำตาลและไขมันจะเยอะแล้ว ขนม ลูกอม ต่างๆยังมีส่วนผสมสังเคราะห์อีกมากมายที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ลองเปลี่ยนมาวางจานผลไม้ หรือพก ผลไม้ติดกระเป๋าไว้แทนขนมดีกว่า  รับรองว่าคุณต้องลดน้ำหนักลงได้อย่างแน่นอน
อันดับ 4 เฟรนช์ฟรายส์ (French Fries)
มันฝรั่ง ที่นำเอามาทอดในน้ำมันเฟรนช์ฟรายส์จึงเป็นอาหารแคลอรี่สูง ไม่เป็นที่พึงประสงค์ของคนอยากลดน้ำหนัก เวลาไปทานอาหารฟ้าสต์ฟู้ด(Fast Food) ควร หลีกเลี่ยงเฟรนช์ฟรายส์ แล้วสุขภาพของคุณจะดีขึ้น
อันดับ 3 ขนมเบเกอรี่ ขนมอบต่างๆ (Pastries)
ขนมเบเกอรี่ต่างๆ  เต็มไปด้วยแป้งขัดขาวและน้ำตาลมันจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่คงที่ ยังทำให้อ้วนง่ายอีกต่างหาก เพราะพอเราได้รับน้ำตาลมากเกินความจำเป็นของร่างกายจะเปลี่ยนเป็นไขมันสะสม ทำให้เราอ้วนแทน อาหารประเภท พาย โดนัท เบเกอรี่ก็เช่นกัน มันทำมาจากแป้งและน้ำตาล ดังนั้น ถ้าอยากควบคุมน้ำหนัก คุณต้องพยายามหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ให้ได้
อันดับ 2 มันฝรั่งทอดกรอบ (Potato Chips)
มันก็คือเฟรนช์ฟรายส์ที่แต่งรส และใส่สารกันบูด  มันถูกทอดในน้ำมัน ไม่มีสารอาหารเหลืออะไรที่เป็นประโยชน์อยู่เลย ยังรวมถึง ขนมกรุบกรอบชนิดอื่นด้วย อย่างแผ่นข้าวโพดทอดกรอบ (Corn Chips) เป็นต้น จึงแนะนำให้แทนที่ของกรุบกรอบด้วย ผักและผลไม้แทนจะดีกว่า
อันดับ 1 น้ำอัดลม (Soda Pop)
ทำจากน้ำตาลข้าวโพด!  นำมาอัดกระป๋องแล้วก็ยิ่งดื่มง่าย น้ำอัดลมจัดเป็นเครื่องดื่มพลังงานสูง ไร้ประโยชน์ ที่ร่างกายพร้อมที่จะเปลี่ยนน้ำตาลส่วนเกินสะสมเป็นไขมัน เมื่อใช้ไม่หมด ลองเปลี่ยนมาดื่มน้ำเปล่าแทนหากคุณตัดน้ำอัดลมออกจากเมนูประจำวันได้ มันจะเป็นการคุมน้ำหนักที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
Credit: คอร์ริน่า ราเชล (Corrina Rachel)

        
ที่มา : http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?bookID=2718&read=true&count=true

วิธีคำนวณปริมาณแคลอรี่ที่ใช้ต่อวัน

วิธีคำนวณปริมาณแคลอรี่ที่ใช้ต่อวัน
ผู้หญิง = น้ำหนักตัว กิโลกรัม x 27

ผู้ชาย = น้ำหนักตัว กิโลกรัม x 31

การเผาผลาญพลังงาน

การเผาผลาญพลังงาน
การทำให้น้ำหนักหายไป 0.5 กิโลกรัม จะต้องใช้แคลอรี่ถึง 3500 kcal
โดยในแต่ละวัน คนทั่วไปเผาผลาญแคลอรี่ได้เพียง 2000 kcal
และก็ได้รับแคลอรี่จากอาหารที่รับประทานเข้าไป 2000-2500 kcal เช่นกัน


แคลลอรี่

แคลอรี่

คือหน่วยวัดปริมาณพลังงานที่ร่างกายใช้ในการเผาผลาญในกิจกรรมต่างๆ สร้างจาก โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน จากอาหารและเครื่องดื่มที่รับประทานเข้าไป ถ้าได้รับแคลอรี่มากเกินความต้องการ จะถูกเก็บอยู่ในรูปไขมัน ถ้าได้รับแคลอรี่น้อยกว่าที่ต้องการ ร่างกายจะดึงแคลอรี่จากไขมันมาใช้เป็นพลังงาน

อาหารหลัห 5 หมู่

อาหารหลัก 5 หมู่ พูดถึงอาหารแล้วทุกคนย่อมเข้าใจถึงสิ่งที่กินเพื่อให้หายหิว และหายอยาก แต่หลายคนไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์และโภชนาการของอาหารเหล่านั้น จึงทำให้บางคนมีภาวะขาดสารอาหาร และบางคนเกิดภาวะเสื่อมถอยของร่างกายเพราะไม่ได้อาหารครบตามที่ร่างกายต้องการ ร่างกายจึงแสดงอาการออกมาตามสิ่งที่ขาดไป เช่น ขาดวิตามินเอ ทำให้ตาฟาง มองไม่เห็นในที่มืด เพราะไม่ได้กินผักผลไม้ให้เพียงพอ เป็นต้น ดังนั้น เราควรมาทำความรู้จักกับ อาหารหลัก 5 หมู่ อย่างถ่องแท้กันเถอะ
               อาหารหลัก 5 หมู่ คือ อาหารที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน 5 ชนิด โดยนำอาหารที่มีสารอาหารเหมือนกัน มาไว้ในหมวดหมู่เดียวกัน ซึ่งคนเราในแต่ละวันนั้น ต้องการสารอาหารทั้ง 5 ชนิด ดังนั้นเราควรกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่

อาหารหลัก 5 หมู่ จำแนกได้ดังนี้


หมู่ที่ 1 โปรตีน
หมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต
หมู่ที่ 3 วิตามิน
หมู่ที่ 4 แร่ธาตุ
หมู่ที่ 5 ไขมัน
                  อาหารหลัก 5 หมู่ ดังนี้

อาหารหมู่ที่ 1 เนื้อสัตว์ ไข่ นม และถั่วเมล็ดแห้ง (โปรตีน)

ให้สารอาหารประเภท โปรตีน
ประโยชน์
- ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานโรค
- ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ของร่างกาย อันได้แก่แผลต่างๆ หรือจากการเจ็บป่วย
จะถูกนำไปสร้างกระดูก กล้ามเนื้อ เลือด เม็ดเลือด ผิงหนัง น้ำย่อย ฮอร์โมน ตลอดจนภูมิต้านทานเชื้อโรคต่าง ๆ
สรุปให้จำง่ายๆ คือ เจริญเติบโต ซ่อมแซม สร้าง
โปรตีน เป็นส่วนประกอบหลักของทุก ๆเซลล์ในร่างกาย จึงถือได้ว่าอาหารหมูนี้เป็นอาหารหลักที่สำคัญในการสร้างโครงสร้างของร่างกายในการเจริญเติบโต และทำให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้เป็นปกติ

อาหารหมู่ที่ ข้าวแป้ง น้ำตาล เผือก มัน (คาร์โบไฮเดรต)

ให้สารอาหารประเภท คาร์โบไฮเดรต
ประโยชน์
- ให้ พลังงาน แก่ร่างกาย ให้ร่างกายสามารถทำงานได้
- ให้ ความอบอุ่น แก่ร่างกาย
สรุปให้จำง่ายๆ คือ ให้ พลังงาน+ความอบอุ่น
พลังงานที่ได้จากหมู่นี้ส่วนใหญ่จะใช้ให้หมดไปวันต่อวันเช่น ใช้ในการวิ่ง เล่น เดิน ทำงาน การออกกำลังกายต่าง ๆ แต่ถ้ากินอาหารหมู่นี้มากจนเกินความต้องการของร่างกาย ก็จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมัน และทำให้เกิดโรคอ้วนได้

อาหารหมู่ที่ 3 ผักต่างๆ (วิตามิน+แร่ธาตุ)

ให้สารอาหารประเภท วิตามิน และแร่ธาตุ
ประโยชน์
- ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีความต้านทานเชื้อโรค
- ช่วยให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้อย่างเป็นปกติ
- มีกากใยมาก ทำให้ลำใส้ทำงานปกติ ขับถ่ายง่าย
ตัวอย่างอาหารหลัก หมู่นี้ คือ ผักต่าง ๆ เช่น ตำลึง ผักบุ้ง ผักกาด และผักใบเขียวอื่น ๆ นอกจากนั้นยังรวมถึงพืชผักอื่น ๆ เช่น มะเขือ ฟักทอง ถั่วฝักยาว เป็นต้น

อาหารหมู่ที่ 4 ผลไม้ต่างๆ (วิตามิน+แร่ธาตุ)

ให้สารอาหารประเภท วิตามิน และแร่ธาตุ
ประโยชน์
- ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีความต้านทานเชื้อโรค
- ช่วยให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้อย่างเป็นปกติ
- มีกากใยมาก ทำให้ลำใส้ทำงานปกติ ขับถ่ายง่าย




อาหารหมู่ที่ 5 น้ำมัน และไขมัน จากพืชและสัตว์ (ไขมัน)
  

ให้สารอาหารประเภท ไขมัน
ประโยชน์
- ให้พลังงานแก่ร่างกาย
- สะสมไว้ใต้ผิวหนังส่วนต่างๆ ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และร่างกายจะดึงออกมาใช้เมื่อเวลาจำเป็น-
ช่วยดูดซึมวิตามินชนิดละลายในไขมัน อันได้แก่ วิตามิน เอ ดี อี และ เค
สามารถแบ่งอาหาร กลุ่มไขมัน ได้เป็น 2 ประเภท
1 อาหารไขมันดี คือ ไขมันที่อุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็นซึ่งจัดเป็นไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาใช้เองได้นั้นมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ รวมถึงใช้ในการผลิตฮอร์โมนบางชนิด อาหารที่อุดมไปด้วยไขมันดี ได้แก่ โอเมก้า 3 น้ำมันปลา ผัก ถั่วและเมล็ดธัญพืช
2.อาหารไขมันร้าย ได้แก่ ไขมันอิ่มตัว (ที่พบมากในเนื้อ เนย นมสดและเนยแข็ง) และไขมันทรานส์ (ที่พบมากในอาหารจำพวก มาการีน ขนมบรรจุและขนมอบ) โดยไขมันร้ายทั้งสองชนิดนี้จะเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือดและนำมาสู่โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด และโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ เป็นต้น
ดังนั้นเราควรทานอาหารให้ได้ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อจะได้ทำให้ร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง เพื่อที่จะทำให้ร่างกายไม่เจ็บป่วย สุขภาพจิตใจ และร่างกาย ดีตลอดไป
ที่มา : http://www.rakjung.com/healthy-no130.html

สูตรดีท็อก

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนดีท็อกซ์ จะดีท็อกซ์ทั้งทีต้องวางแผนกันหน่อยเริ่มจากลดน้ำตาลสัก 1-2 สัปดาห์ก่อนดีท็อกซ์ พวกแป้งขัดสีส่วนแอลกอฮอล์หรืออาหารกระป๋องก็เพลาๆ ลงบ้าง และดื่มน้ำให้มากขึ้น ส่วนสาวๆ คนไหนทีติดกาแฟก็ค่อยๆ ลดปริมาณลงทีละน้อยจนกว่าจะอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งกาเฟอีนแล้วค่อยเริ่มดีท็อกซ์นะ
     - พร้อมแล้วก็เริ่มเลย สูตรที่นำมาฝากนี้ใช้ได้ตั้งแต่ 721 วัน โดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สาวๆ ตั้งเป้าหมายให้ตัวเองได้เลยว่าจะให้เวลากับการดีท็อกซ์ครั้งนี้กี่วันหลักการง่ายๆ จำไม่ยากก็คือตื่นเช้าให้ดื่มน้ำมะนาวครึ่งลูกผสมกับน้ำเปล่าอุ่นๆ หนึ่งแก้ว แล้วตลอดช่วงที่ดีท็อกซ์ให้งดแป้งและเนื้อสัตว์ทั้งหลาย แล้วกินแต่ผัก ผลไม้ โดยเน้นพวกผักใบเขียวเข้มๆ เช่น บร็อกโคลี่ คะน้า หน่อไม้ฝรั่ง จะทำเป็นสลัดน้ำใส หรือนึ่งให้สุกก็ได้แต่ห้ามปรุงรสนะจ๊ะ ส่วนผลไม้ควรเป็นส้มโอ แก้วมังกร สับปะรด ฝรั่ง หรือไม่ก็สตรอวเบอร์รี่ แต่ต้องกินสดๆ เท่านั้นไม่ต้องเชื่อมหรืออบแห้งใดๆ ทั้งสิ้น
     - พวกถั่วอบและธัญพืชต่าง ๆ ก็กินได้บ้างเล็กน้อยแต่อย่าปรุงแต่งรสก็แล้วกัน
     - ห้ามเผลอปากเด็ดขาด พวกนม ชีส ไข่ ถั่วเหลือง ชา กาแฟ แป้ง เนื้อสัตว์ แอลกอฮอล์ อย่าได้เผลอกินเข้าไปเลยเชียว เพราะความพยายามของคุณจะล้มเหลวทันที อ้อ! พวกผักผลไม้กระป๋องก็ห้ามนะ เตือนตัวเอง เอาไว้ว่าคุณกำลังอยู่ในช่วงล้างสารพิษจะเพิ่มพิษเข้าตัวเองไปทำไม
     - ดื่มน้ำเปล่ามากๆ ดื่มน้ำเปล่าอุ่นๆ หรืออุณหภูมิห้องให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อยก็ 10 แก้วต่อวัน แต่มีทริกอยู่ว่าหลังกินอาหารเสร็จใหม่ๆ ให้ดื่มน้ำแก้ติดคอได้เล็กน้อย แล้วเว้นระยะห่าง 15 นาทีเพื่อให้น้ำย่อยทำงานได้เต็มที่แล้วค่อยดื่มแบบจัดหนักนะจ๊ะ
     - ดีท็อกซ์แล้วดียังไง อาจจะเหมือนอดอาหารธรรมดาแต่ช่วงที่ดีท็อกซ์นี้ร่างกายของคุณจะได้พักปรับสมดุล ทำความสะอาดลำไส้และแบคทีเรียที่เป็นโทษ ต่อร่างกายออกไป ลำไส้จะทำงานได้ตามปกติ ร่างกายก็จะสดชื่นระบบการทำงานในร่างกายดีขึ้นผิวใส ออร่าเปล่งประกาย และ น้ำหนักก็ลดลงด้วยนะ!
ความเชื่อผิดๆ     มนุษย์เราเป็นสัตว์กินพืชเวลาที่เรากินเนื้อสัตว์ ระบบย่อยต้องทำงานหนักมาก และต้องใช้เวลานานถึง 7 วัน เนื้อสัตว์จะหมักหมมอยู่ในลำไส้ บูดเน่า และเกิดเป็นแก๊สพิษสะสมและตกค้างอยู่ในร่างกาย
     - ดีท็อกซ์เป็นแค่การล้างสารพิษตกค้างในร่างกาย ไม่ใช่การรักษาโรค
ประโยชน์การดีท็อก
1. ล้างลำไส้ช่วยให้มีการขับของเสียได้ดี โดยไม่ต้องพึ่งยาระบาย โดยเฉพาะท่านที่มักท้องผูก
2.  ประโยชน์ของการล้างลำไส้ช่วยล้างลำไส้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เกิดการระคายเคืองต่อ
3. ช่วยทำให้ผิวเรามีสุขภาพดี เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล
4. ช่วยให้พุงยุบ ไม่มีของเสียตกข้างอยู่ในลำไส้ของเรา
5.  ระบบขับถ่ายและการไหลเวียนภายในร่างกายสมดุลยิ่งขึ้น
6.  ช่วยล้างไขมันในลำไส้เล็ก และยังมีไขมันฝ่ายดีและจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
วิธีลดหน้าท้อง สูตรดีท็อกซ์ลำไส้สุขภาพดี ผิวสวย พุงยุบ
ส่วนประกอบ
1.นมสดรสจืดต้องใช้ชนิดที่เป็นนมโคแท้ 100% เท่านั้นขนาด มิลลิลิตร
2.โยเกิร์ตใช้รสธรรมชาติเท่านั้น ครึ่งถ้วย
3.มะนาวครึ่งลูก
4.น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
 การรับประทาน
กินช่วงเช้า  เวลาประมาณ  5.00 – 12.00  น. กินตอนท้องว่าง ตื่นมาแล้วกินเลย จะช่วยในเรื่องของการลดความอ้วน ลดพุง
กินช่วงบ่าย  เวลาประมาณ 13.00-15.00 น. จะไปช่วยย่อยขยะในลำไส้เล็กเพื่อเปลี่ยนขยะให้เป็น บี 12 ส่งไปเลี้ยงสมองได้ดีมาก
                กินช่วงเย็น เวลาไหนก็ได้ก่อนนอน ตอนที่ท้องเราว่าง จะช่วยในเรื่องของการลดความอ้วน ลดพุง ย่อยอาหารได้ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกับการกินช่วงเช้า
วิธีทำ
บีบน้ำมะนาวใส่แก้ว/เติมน้ำผึ้ง/ใส่โยเกิร์ต/ใส่นม คนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวยกขึ้นดูน้ำผึ้งไม่ติดช้อนแล้ว ทานทันที ไม่วางไว้ ไม่แช่เย็น
หมายเหตุ : โยเกิร์ตควรแช่เย็น แต่สำหรับนมไม่ควรแช่เย็น หากนำนมเก็บไว้ในตู้เย็นควรให้นำไปอุ่นก่อนโดยแช่ในน้ำที่ต้มร้อนแล้วเพื่อคลายเย็นไม่ต้องต้มร้อน
วิธีลดน้ำหนักด้วยเม็ดแมงลัก ดีท็อกล้างพิษ ล้างลำไส้
ส่วนประกอบ
1.เม็ดแมงลัก 2 ช้อนชา
2.น้ำร้อน 1 แก้ว
การรับประทาน
สามารถทานเม็ดแมงลักเป็นปกติได้ทุกวัน หรือ 3 – 4 วันต่อสัปดาห์
วิธีทำ  
นำเม็ดแมงลัก ตักใส่แก้วประมาณ 2ช้อนชา ผสมน้ำร้อน 1 แก้ว ตั้งทิ้งไว้ 30นาที เมื่อเม็ดแมงลักแตกตัวเต็มแก้วก็นำมาดื่มก่อนนอน สำหรับใครที่ไม่ชอบรสชาติแบบเพียวๆของเม็ดแมงลักเราอาจจะใส่น้ำผึ้ง น้ำสมุนไพรที่เราชอบ น้ำหวานเฮลบลูบอย 
การปรุงรสชาติเข้าไปจะทำให้เราทานง่ายขึ้น สำหรับเม็ดแมงลักนั้นจะมีใยอาหารสูงและมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ ที่ดีต่อร่างกาย จึงช่วยในการลากอุจจาระที่ตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหารออกมาได้อย่างดีเลยทีเดียวนอกจากนี้  เม็ดแมงลักยังเป็นเมนูเครื่องดื่มที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ลดความอ้วน ลดหน้าท้อง ลดพุงที่ดีอีกด้วย เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดพลังงาน แถมยังช่วยให้เราระบายถ่ายคล่อง  อีกทั้งยังช่วยในการลดไขมันในเส้นเลือด และช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้อีกด้วย  นับว่าเป็นเครื่องดื่มสารพัดประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายเราอย่างมากเลย

หมายเหตุ : ข้อควรระวังในการทานเม็ดแมงลัก คือ ต้องรอให้เม็ดแมงลักแตกตัว พองตัวเต็มที่เสียก่อน เพราะแทนที่จะช่วยระบาย ก็อาจจะกลายเป็นทำให้ท้องผูกแทนได้ทันที
ดีท็อกขับถ่ายของเสีย ด้วยวิธีธรรมชาติ
สูตรที่ 1   ดื่มนมสด กล้วยน้ำว้า
ส่วนประกอบ
1.นมสด ปริมาณประมาณ 500 มิลลิลิตร
2.กล้วยน้ำว้า 2 ผล
การรับประทาน
ควรทานก่อน 6 โมงเช้าเพื่อให้ร่างกายขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายก่อนที่เราจะทานอาหารเช้า แนะนำให้ช่วงแรกๆควรทานติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน เมื่อเราขับถ่ายอุจจาระเป็นเวลา คือก่อน 7 โมงเช้าแล้ว เราก็สามารถลดปริมาณการทานเหลือเพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
สูตรที่ 2 
ส่วนประกอบ
1.ผักบุ้ง 2 กำมือ ผัดหรือต้ม



สาเหตุที่ให้ทานผักบุ้ง เพราะผักบุ้ง  ในผักบุ้ง 100 กรัมจะให้พลังงาน 22 กิโลแคลอรี่ และประกอบด้วยเส้นใย วิตามินและแร่ธาตุอื่นๆอีกด้วย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบีวิตามินบีวิตามินบีธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เป็นต้น  ช่วยป้องกันโรคท้องผูก  ช่วยทำความสะอาดของเสียที่ตกค้างในลำไส้  ผักบุ้งจีนมีฤทธิ์ช่วยในการขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะเหลือง ช่วยแก้อาการปัสสาวะเป็นเลือด ถ่ายออกมาเป็นเลือด ด้วยการใช้ลำต้นคั้นนำน้ำมาผสมกับน้ำผึ้งดื่ม ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ฯลฯ เห็นไหมละค่ะว่าแค่ผักบุ้งตัวเดียวก็ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมายจริงๆ  สำหรับใครที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนักควรจะทานเป็นผักบุ้งต้ม ดีกว่านะค่ะ จะได้ไม่เพิ่มแคลอรี่ให้กับร่างกายมาก